การรับมือภัยคุกคามจากการโจรกรรมคริปโตของเกาหลีเหนือดีขึ้น
ในรายงานล่าสุดจากทีมตรวจสอบการคว่ำบาตรพหุภาคี (Multilateral Sanctions Monitoring Team) ระบุว่าเกาหลีเหนือได้ขยายกิจกรรมแฮ็กคริปโตเคอร์เรนซีอย่างระบบระเบียบและซับซ้อนมากขึ้น และได้ขโมยคริปโตมูลค่า 2.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 รายงานนี้เป็นการร่วมมือระหว่างสหรัฐและประเทศตะวันตกอื่นๆ ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และแคนาดา โดยงานในการตรวจจับภัยคุกคามนี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
รายงานระบุว่า เกาหลีเหนือได้ใช้เครือข่ายการทำงานในอุตสาหกรรมไอทีในประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม มากกว่าการขยายในจีน เกาหลีเหนือยังมีแผนที่จะส่งแรงงานอีก 40,000 คนไปยังรัสเซีย ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อห้ามของ UN Security Council Resolutions 2375 และ 2397
ในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ และบริษัทในตะวันตก เช่น Chainalysis ได้ร่วมมือกันตรวจจับภัยคุกคามไซเบอร์ โดยอนุญาตให้รายงานส่วนหนึ่งระบุว่า ขณะที่การกระทำของแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและบริษัทส่วนตัวกำลังพัฒนาทางในการต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตัวอย่างหนึ่งคือ การคว่ำบาตรเครือข่ายไอทีเถื่อนที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือในเดือนสิงหาคม
Andrew Fierman หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองความมั่นคงแห่งชาติที่ Chainalysis อธิบายว่า การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ โซลูชั่นด้านความปลอดภัย และการฝึกอบรมที่มุ่งเป้า สามารถช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อต้านและป้องกันการปรับเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมการทำการเงินผิดกฎหมาย แนะนำให้ใช้ข้อมูลและความฉลาดของบล็อกเชนร่วมกับมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพื่อหยุดยั้งการใช้เงินที่ถูกขโมย และเพื่อแผนผังเครือข่ายการเงินของเกาหลีเหนือ
Fierman ยังแนะนำให้องค์กรต่างๆ ใช้การตรวจสอบบล็อกเชนอย่างครอบคลุม พัฒนากระบวนการตรวจสอบการจ้างแรงงานไอทีที่มีความเข้มงวด ติดตั้งระบบตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง ให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ และมีเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับการทำธุรกรรมขนาดใหญ่
Source: https://decrypt.co/346010/north-korea-stolen-billions-crypto-ability-fight-back-growing-chainalysis
#AvareumNews #CryptoCrime #BlockchainSecurity #NorthKorea #CryptoHacking
This newsletter is produced with assistance from OpenAI's ChatGPT-4o. All analyses are reviewed and verified by our research team.